จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส “โควิด-19” ในประเทศไทย จนรัฐบาลต้องออกประกาศมาตรการ “ล็อกดาวน์” ในพื้นที่เสี่ยง เพิ่มเติมจาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด
ซึ่งคณะรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ 10 จังหวัดที่มีการล็อกดาวน์ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส และสงขลา และที่เพิ่มเติมอีก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมเป็น 13 จังหวัด
โดยจะเยียวยาใน 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรงบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร
นายจ้างและผู้ประกอบวิชาชีพสถาปนิก ที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา40 จะมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาภายในเดือนสิงหาคมนี้
– ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับการเยียวยา 2,500 บาท โอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน สามารถตรวจสอบสิทธิ ได้ที่ www.sso.go.th
– นายจ้าง จะได้รับการเยียวยา ตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ส่วนนายจ้างบุคคลธรรมดา จะได้รับเงินโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน นายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคล
– ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 ซึ่งเป็นกลุ่มฟรีแลนซ์และอาชีพอิสระ จะได้รับการเยียวยา 5,000 บาท โดยผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40 ก่อนวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ให้รีบสมัครภายในวันที่ 30 ก.ค. 2564 สามารถลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ที่ https://www.sso.go.th/section40_regist/
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วน 1506