ลูกบ้านฟ้องคอนโดดังระยองสร้างผิดแบบ-เสี่ยงไม่ปลอดภัย

ลูกบ้านฟ้องคอนโดดังระยองสร้างผิดแบบ-เสี่ยงไม่ปลอดภัย

คัดจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 6 พ.ย. 2555

ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ตัวแทนลูกบ้านของ “ภูผาธารา คอนโด” ริมหาดแม่พิมพ์ จ.ระยอง จำนวน 20 คน จากทั้งหมด 33 คน นำโดยนางเฌอลี วัตสัน พร้อมด้วยทนายความ และชาวต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมายื่นฟ้องคดีอาญากับบริษัท วิไลลักษณ์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด  เป็นจำเลยร่วมฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยการนำเอาคารที่สร้างผิดแบบที่กฎหมายกำหนดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาออกขายให้กับประชาชนทั่วไป

ก่อนหน้านี้ ลูกบ้านของ ภูผาธารา คอนโด เคยยื่นฟ้องคดีแพ่ง ต่อศาลจังหวัดระยอง กับบริษัทวิไลลักษณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการในกรณีที่ไม่ยอมให้ใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำของโครงการและคดียังอยู่ในขั้นตอนสืบพยานนัดแรกไปแล้วเมื่อ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่พบว่าทางเจ้าของโครงการไม่ได้ดำเนินการจัดหาพื้นที่ส่วนกลางให้กับลูกบ้านตามที่ลงประกาศไว้ในระหว่างการขายโครงการ

ขณะที่ยังพบว่ามีการสร้างอาคารผิดแบบอีกด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวลูกบ้านได้รับทราบผลการเข้าตรวจสอบชุดของนายเฉลิมพงษ์ เนตรพฤกษ์รัตน์ ผู้ประกอบการวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม พ.ร.บ.สถาปนิก พ.ศ.2543 ว่าอาคารดิโอเชียน สกาย เอ และ บี ไม่ได้มีการสร้างถนนรอบอาคารกว้าง 6 เมตร ที่ปรากฏในผังแบบการก่อสร้างของโครงการไว้ เพื่อรองรับในกรณีการเกิดภัยพิบัติและไฟไหม้อาคารคอนโดขึ้น ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวเป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 33 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยผู้ตรวจสอบอาคารได้แจ้งให้กับเจ้าของโครงการรับทราบเพื่อแก้ไข แต่เท่าที่ทราบจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการแก้ไขให้ถูกกฎหมาย พร้อมกันนี้ทางผู้ตรวจสอบอาคารยังได้ส่งเรื่องให้กับนายกเทศมนตรีเทศบาลสุนทรภู่ สั่งการให้ตรวจสอบและแก้ไขแล้ว

คอนโดแห่งนี้เป็นอาคารสูงขนาด 14 ชั้น จำนวน 3 อาคารๆละ 60 ยูนิต และส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติสัญชาติต่างๆ และคนไทยที่มาซื้อโครงการในราคาตารางเมตรละ 7 หมื่นบาท แต่เพิ่งมาทราบว่าคอนโดไม่ได้ทำตามกฎหมายที่กำหนด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยต่อกรณีอัคคีภัยที่กำหนดให้ต้องทำถนนรอบอาคารเว้นไว้ 6 เมตร สำหรับรถเข้ามาดับเพลิงได้ และทางโครงการนำพื้นที่ที่ควรจะสร้างถนนไปทำอย่างอื่นรอบอาคารเพื่อสร้างภูมิทัศน์ให้สวยงาม ซึ่งทางลูกบ้านเคยสอบถามกับทางดับเพลิงแล้วว่าถ้าเกิดเหตุจริงรถจะไม่สามารถเข้าถึงตัวอาคารชั้นบนได้เลย

ที่ผ่านมาลูกบ้านได้เคยหาทางต่อรองกับเจ้าของโครงการว่าทำผิดกฎหมายและต้องการให้มีการปรับปรุง แต่ทางเจ้าของโครงการไม่สนใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังปรึกษากับทางทนายความต่อไปว่าการที่โครงการทำผิดแบบก่อสร้าง มีบุคคลอื่นหรือหน่วยงานที่อนุญาตเกี่ยวข้องหรือไม่ และอาจจะนำไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองในข้อหาละเว้นหน้าที่ต่อไปอีกด้วย

ด้านทนายความกล่าวว่า ศาลได้รับคดีหมายเลข อ.4144 ไว้แล้ว และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 7 ม.ค. 2556 โดยคดีดังกล่าวเป็นการฟ้องในข้อหาฉ้อโกง แต่มีเหตุปัจจัยฟ้องมาจากการที่เจ้าของโครงการไม่ยอมทำตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522  เพราะสร้างผิดจากแบบที่กำหนด โดยไม่เป็นตามการโฆษณาทำให้ผู้ที่ซื้อคอนโดหลงเชื่อในเรื่องความปลอดภัยของอาคาร ซึ่งตามหลักการอาคารจะต้องถูกรื้อและปรับผังให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ลูกบ้านส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยแล้ว จึงรวมกันมายื่นฟ้อง เพราะไม่ต้องการอยู่อาศัยต่อไป ทั้งนี้ เจ้าของโครงการทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 59 มาตรา 83 มาตรา 90 มาตรา 91 มาตรา 271 มาตรา 341 มาตรา 343 และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 31 มาตรา 39 ทวิ มาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 70 และมาตรา 73 และกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 33 พ.ศ.2535

Facebook
Twitter
LinkedIn