ประเภทและขนาดของโครงการฯซึ่งต้องจัดทำ EIA
20 มิ.ย. 2555
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออก “ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม” ลงวันที่ 24 เมษายน 2555 ซึ่งเป็นการปรับปรุงแก้ไขจากฉบับเดิม ฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2552 ซึ่งถูกยกเลิกไป
ในประกาศกระทรวงฯฉบับนี้ มีส่วนสำคัญคือ
1. การกำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติต่างๆ อยู่ในเอกสารท้ายประกาศ 3 มีการปรับปรุงแก้ไขที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ยกเลิกลำดับที่ 1.3.2 เดิม คือ การทำเหมืองแร่ทุกชนิดที่ตั้งอยู่ในทะเล
1.2 ยกเลิกลำดับที่ 32. เดิม คือ เฃื่อนกักเก็บน้ำหรืออ่างเก็บน้ำ
1.3 เพิ่มลำดับที่ 34. 35. ใหม่ คือ
34. การผันน้ำข้ามลุ่มน้ำหลัก และการการผันน้ำระหว่างประเทศ ยกเว้นกรณีภัยพิบัติหรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศที่เป็นการดำเนินการชั่วคราว
35. ประตูระบายน้ำในแม่น้ำสายหลัก
2. การกำหนดรายชื่อลุ่มน้ำหลัก และแม่น้ำสายหลักของประเทศไทย อยู่ในเอกสารท้ายประกาศ 1 และ 2 ตามลำดับ
3. กำหนดแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง แบบฟอร์มต่างๆที่เกี่ยวข้อง อยู่ในท้ายเอกสารประกาศ 4 ซึ่งมีการปรับปรุงข้อความ แต่ไม่แตกต่างจากเดิมในสาระสำคัญ ที่แตกต่างสักหน่อยคือแบบ สผ.๕ และแบบ สผ.๙ ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อผู้จัดทำ EIA และ IEE มีเนื้อหาที่จะต้องกรอกมากขึ้น
4. สำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงฯ ซึ่งต้องจัดทำรายงานฯ (EHIA) ตามประกาศกระทรวงฯฉบับที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ก็ให้จัดทำรายงานฯตามประกาศดังกล่าวนั้นแต่เพียงอย่างเดียว
สำหรับประเภทและขนาดของโครงการที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับงานสถาปัตยกรรม ได้แก่ อาคาร การจัดสรรที่ดิน โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล โรงแรม และอาคารอยู่อาศัยรวม ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 27. 28. 29. 30. 31. ตามลำดับ ยังมีการกำหนดคงเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ประกาศกระทรวงฯฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 21 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป