มาตรการปกป้องสินค้าบล็อกแก้ว

มาตรการปกป้องสินค้าบล็อกแก้ว

9 ก.ย. 2554

ตามที่ได้มีการออกมาตรการปกป้องชั่วคราว เนื่องจากการที่มีการนำเข้าสินค้าบล็อกแก้วที่เพิ่มขึ้นจนก่อให้เกิดความเสียหายหรือคุกคามอุตสาหกรรมภายใน ในระหว่างที่มีการพิจารณาวินิจฉัยโดยคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง ตั้งแต่ 15 ม.ค. 2554 (ดูข่าว “เรียก เก็บอากรชั่วคราวนำเข้าบล็อคแก้ว” ) บัดนี้คณะกรรมการฯได้พิจารณาและวินิจฉัยแล้ว โดยได้ออก ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง แสดงผลและรายละเอียดคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้กำหนดมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าบล็อกแก้วที่เพิ่มขึ้น พ.ศ. 2554 โดยมีคำวินิจฉัยและมาตรการที่กำหนดพอสรุปได้ดังนี้

คำวินิจฉัย
คณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องได้พิจารณาข้อมูลและพยานหลักฐานที่ได้รับจากการไต่สวนการนำเข้าสินค้าบล็อกแก้วที่เพิ่มขึ้นและความเสียหายแล้ว มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุด เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2554 ว่า การที่สถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้มีการนำเข้าสินค้าบล็อกแก้วเพิ่มขึ้นอย่างมากและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่อุตสาหกรรมภายใน โดยเป็นความเสียหายโดยรวมที่ชัดแจ้งดังนั้น เพื่อขจัดความเสียหายที่เกิดแก่อุตสาหกรรมภายในอันเป็นผลจากการนำเข้าสินค้าบล็อกแก้วที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว คณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องจึงกำหนดมาตรการปกป้องโดยการเรียกเก็บอากรในอัตราตามราคาหรืออัตราตามสภาพโดยให้เรียกเก็บในอัตราที่คำนวณเป็นเงินแล้วสูงกว่า ถึงวันที่ 14 ม.ค. 2557 และผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวลงตามลำดับ

มาตรการปกป้องที่ใช้บังคับ
คณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องกำหนดให้เรียกเก็บอากรปกป้องสินค้าบล็อกแก้วที่นำเข้ามาภายใต้พิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่7016.9000 ในอัตราตามราคาหรืออัตราตามสภาพโดยให้เรียกเก็บในอัตราที่คำนวณเป็นเงินแล้วสูงกว่า และให้ผ่อนคลายลงตามลำดับโดยสอดคล้องกับแผนการปรับตัวในการลดต้นทุนการผลิต การสร้างนวัตกรรมใหม่ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันตามที่อุตสาหกรรมภายในเสนอ ดังนี้

(1) การนำเข้าถึงวันที่ 14 ม.ค. 2555 ให้เรียกเก็บอากรปกป้องตามราคาในอัตราร้อยละ 35 ของราคา C.I.F.หรือตามสภาพในอัตราก้อนละ 11.23 บาท โดยให้เรียกเก็บอากรในอัตราที่คำนวณเป็นเงินแล้วสูงกว่า
(2) การนำเข้าตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2555 ถึง 14 ม.ค. 2556 ให้เรียกเก็บอากรปกป้องตามราคาในอัตราร้อยละ32 ของราคา C.I.F. หรือตามสภาพในอัตราก้อนละ 10.23 บาท โดยให้เรียกเก็บอากรในอัตราที่คำนวณเป็นเงินแล้วสูงกว่า
(3) การนำเข้าตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2556 ถึง 14 ม.ค. 2557 ให้เรียกเก็บอากรปกป้องตามราคาในอัตราร้อยละ29 ของราคา C.I.F. หรือตามสภาพในอัตราก้อนละ 9.23 บาท โดยให้เรียกเก็บอากรในอัตราที่คำนวณเป็นเงินแล้วสูงกว่า

มาตรการปกป้องข้างต้นมีการยกเว้นไม่ใช้บังคับกับสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศกำลังพัฒนา หากส่วนแบ่งการนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นไม่เกินร้อยละ 3 ของปริมาณการนำเข้ารวมของสินค้านั้น และรวมกันไม่เกินร้อยละ 9 ทั้งนี้ ไม่รวมสินค้าบล็อกแก้วที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศอิหร่าน

หมายเหตุ: กรณีนี้มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ผู้ผลิตสินค้าบล็อกแก้วของไทยจำนวน 1 ราย (ปัจจุบันมีผู้ผลิตในประเทศเพียงรายเดียวคือ บ.บางกอกคริสตัล จก.) ผู้นำเข้าไม่น้อยกว่า 8 ราย และผู้ส่งออกจากต่างประเทศซึ่งมีข้อมูลว่ามีประเทศที่ส่งออกบล็อกแก้วมายังประเทศไทยจำนวน 12 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน สวิตเซอร์แลนด์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล สหภาพยุโรป แคนาดา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และออสเตรเลีย (ที่ส่งออกมากน่าจะได้แก่ จีน อินโดนีเซีย และเช็ค)