บ้านจักรพงษ์ (วังจักรพงษ์)
อ่านเพิ่มเติม
บ้านจักรพงษ์ (วังจักรพงษ์)
- ที่ตั้ง ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯ
- สถาปนิก/ผู้ออกแบบ นายแอร์โกเล มันเฟรดี (Ercole Manfredi) นายเอ็ดวาร์ด ฮีลี (Edwaed Healey)
- ผู้ครอบครอง ม.ร.ว. นริศรา จักรพงษ์
- ปีที่สร้าง พ.ศ. 2452 – 2453
- ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2530
ประวัติ
วังจักรพงษ์หรือบ้านจักรพงษ์ เดิมเรียกว่าวังท่าเตียน สร้างขึ้นเมื่อปลายปีพ.ศ. 2452 แล้วเสร็จกลางปี 2453 เป็นวังของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ และหม่อมคัทริน สร้างในลักษณะของบ้านพักผ่านริมน้ำตามความประสงค์ของหม่อมคัทริน นอกจากนี้ทรงมีพระประสงค์จะให้เป็นตำหนักที่ประทับของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสซึ่งขณะนั้นทรงศึกษาอยู่ ณ ประเทศอังกฤษ รูปแบบของอาคารเป็นตึกแบบที่ได้รับอิทธิพลสภาปัตยกรรมพื้นถิ่นตะวันตก หรือโดเมสติกรีไววัล สไตล์ (Domestic Revival Style) ตอนหน้ามี 2 ชั้น ปีกซ้ายในมี 3 ชั้น และมีหอคอยอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งใช้เป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนารถ พระอัฐิของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ อาคารนี้มีมุขด้านหน้าเพียงมุขเดียว ส่วนด้านแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเฉลียงรับลม เฉลียงด้านล่างเป็นทรงโค้งครึ่งวงกลม มีบันไดทอดไปยังศาลาท่าน้ำ สถาปนิกผู้ออกแบบคนแรกคือ นายแอร์โกเล มันเฟรดี (Ercole Manfredi) สถาปนิกชาวอิตาลี ส่วนในการต่อเติมอาคารเป็น 3 ชั้นนั้น นายเอ็ดวาร์ด ฮีลี (Edward Healey) สถาปนิกชาวอังกฤษเป็นผู้ออกแบบ ปัจจุบันวังจักรพงษ์หรือบ้านจักรพงษ์ ภายในบริเวณบ้านประกอบด้วยที่ทำการของสำนักงานกองมรดกของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพงษ์ มูลนิธิ “จักรพงษ์มูลนิธิ” และกิจการอื่นๆ ที่ท่านดูแลที่ทำการดังกล่าวตั้งอยู่ในอาคารริมกำแพง ซึ่งเป็นอาคารบริวารของวังมาแต่เดิม
Chakrabongse House
- Location Maharat Road, Khet Phra Nakhon, Bangkok
- Architect/Designer Mr. Ercole Manfredi, Mr. Edward Healey (extension design)
- Proprietor Mom Ratchawong Narisa Chakrabongse
- Date of Construction 1909 – 1910 AD
- Conservation Awarded 1987 AD
History
Chakrabonge House was originally called “Wang Tha Tian” (Tha Tian Palace) built in late 1909 as a riverside pavilion for Prince Chakrabongsebhuvanat and Lady Kathrin, his wife. It was also intended to be a house for their son, Prince Chulachakrabongse who was studying in England at that time.
The architecture is Domestic Revival style with 2-storey at the front, 3-storey at the left wing and a tower, which house the relics of King Rama V, Queen Si Patcharinthra, Prince Chakrabongsebhuvanat, and Prince Chulachakrabongse. There is a porch at front, a terrace at the rear, and a riverside pavilion. The original house was designed by Mr. Ercole Manfredi, an Italian architect, and later Mr. Edward Healey, and English architect, did the addition of the 3rd storey.
At present, the house belongs to Mom Ratchawong Narisa Chakrabongse, daughter of Prince Chulachakrabongse who takes care of the house, foundations and office of the family, which are situated in an outbuilding by Maharat Road.




บ้านหงษ์หยก
อ่านเพิ่มเติม
บ้านหงษ์หยก
- ที่ตั้ง 25 ถนนเทพกษัตริย์ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
- สถาปนิก/ผู้ออกแบบ ขุนพิศาลสารกรรม
- ผู้ครอบครอง คุณบุญศรี หงษ์หยก
- ปีที่สร้าง พ.ศ. 2473
- ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2530
ประวัติ
บ้านหงษ์หยก หนึ่งในคฤหาสน์เก่าแก่ของเมืองภูเก็ตที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ด้วยความภาคภูมิใจของตระกูลหงษ์หยกนั้น มีลักษณะเด่นที่มุขโค้งครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ซึ่งเป็นมุขทางเข้า ซุ้มโค้งเตี้ยและการเซาะร่องผนังเลียนแบบการก่อหิน ทำให้อาคารนี้มีความสง่างามแบบโคโลเนียล ส่วนการตกแต่งภายในเป็นแบบจีน นอกจากนี้ยังมีความทันสมัยด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างที่สามารถแก้ปัญหาซุ้มโค้งขนาดมาตรฐานที่บรรจุหน้าต่างได้เพียง 2- 3 บาน อย่างอาคารอื่นๆในภูเก็ต มาเป็นซุ้มโค้งกว้าง ที่สามารถบรรจุหน้าต่างได้ถึง 5 – 6 บาน เป็นความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของอาคารนี้
บ้านหงษ์หยกสร้างขึ้นในช่วงปี 2473-2476 โดยหลวงอนุภาษภูเก็ตการ (ตันจินหงวน) ต้นตระกูลหงษ์หยกผู้ก่อตั้งบริษัท อนุภาษและบุตร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเหมืองแร่มาจนปัจจุบัน ออกแบบโดยสถาปนิกไทยคือขุนพิศาลสารกรรม นอกจากความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมแล้ว บ้านหลังนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ต้อนรับพระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทยและแขกสำคัญทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ปัจจุบัน บ้านหลังนี้เป็นโบราณสถานขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร และเป็นบ้านพักอาศัยของคุณบุญศรี หงษ์หยก ซึ่งได้ดูแลบ้านไว้เป็นศูนย์รวมจิตใจของลูกหลานตระกูลหงษ์หยก ที่จะมารวมญาติกันในงานสำคัญต่างๆ อาทิ พิธีไหว้บรรพบุรุษ และพิธีสมรสแบบจีน
Hongyok House
- Location 25 Thepkasatri Road, Tambon Talad Yai, Amphoe Mueang, Phuket Province
- Architect/Designer Khun Phisansarakam
- Proprietor Mrs. Bunsi Hongyok
- Date of Construction 1930 AD
- Conservation Awarded 1987 AD
History
Hongyok House, one of Phuket’s famous old mansions is distinguishable with a large semi circular entrance porch, the three-centred arches and rusticated walls. Although the exterior appears Colonial, the interior decorations are distinctly Chinese. The building is also an example of an advance structural design as seen in the wide arched, in which contains as many as 5- 6 windows each.
The house was built in 1930 by Luang Anupatphuketkan (Tan Jin Guan), head of the Hongyok family and founder of Anupat & Sons Co.,Ltd. It was designed by a Thai architect, Khun Phisansarakam. This house has been significant as a reception house for several VIPs including Phraya Manopakon Nitithada, the first Prime Minister of Thailand.
The house is, at present, a registered National Monument and a residence of Khun Bunsi Hongyok. It is the centre of Hongyok family where members are gathered on every important event such as the ancestors worshipping and Chinese wedding ceremonies.






บ้านพักเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์
อ่านเพิ่มเติม
บ้านพักเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์
- ที่ตั้ง 106 ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ
- สถาปนิก/ผู้ออกแบบ –
- ผู้ครอบครอง สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์
- ปีที่สร้าง พ.ศ. 2438 – 2443
- ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2530
ประวัติ
บ้านพักเอกอัครราชทูเนเธอร์แลนด์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ตัวอาคาร 2 ชั้นหลังคาจั่ว และมีส่วนหนึ่งเป็นหอคอยสูง 3 ชั้น ลักษณะเด่นคือหลังคาที่มีการซ้อนชั้นขึ้นไปในส่วนหอคอย และการตกแต่งด้วยไม้แกะสลักและเสาประดับที่ยอดจั่ว
บ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านของนายแพทย์อัลฟองส์ ปัวส์ แพทย์หลวงชาวฝรั่งเศส ประจำพระองค์บระบาทสมเด็จพระจุลจอเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาใน พ.ศ. 2476 พระองค์เจ้าบวรเดชจึงทรงเป็นเจ้าของสืบต่อมา หลังจากนั้นในปี 2476 พระองค์เจ้าบวรเดชได้ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ต่างประเทศแต่บ้านยังสืบทอดมาในสายตระกูลของท่านและเคยใช้เป็นที่อยู่ของบาทหลวงคาทอลิก เป็นที่ตั้งสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ และที่อยู่ของทหารอังกฤษในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงคราม รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ซื้อบ้านหลังนี้ใน ปีพ.ศ.2491 เพื่อใช้เป็นบ้านพักเอกอัครราชทูต และเป็นที่ทำการของสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านั้นมีเพียงสถานกงสุลมาตลอด
The Dutch Embassy Residence
- Location 106 Witthayu Road, Bangkok
- Architect/Designer Unknown
- Proprietor Dutch Embassy
- Date of Construction 1895 – 1900 AD
- Conservation Awarded 1987 AD
History
The Dutch Embassy Residence is a Colonial house, 2-storey, gable roofs, with a 3-storey tower. Distingguished features are the double roof of the tower and the decorative gable corners made of woodcarvings.
The first owner of the house was Dr. Alphonse Poix, a French doctor who was a royal physician to King Rama V. Dr. Poix moved out in 1913, and then Prince Boworadet took up the place until 1933, that he fled to foreign country for political reasons. The house, however, was still his family’s possession and had been used as a residence for Roman Catholic priests, the British Alumni Assosciation, and occupied by members of the British armed forces by the end of WW II.
After the war, the Dutch Government bought the house in 1948 to be used as a residence for the Ambassador, thus the permanent Dutch Embassy was firstly established in Thailand, for there had only been a consulate in former times.



เรือนล้านนาขันโตก
อ่านเพิ่มเติม
เรือนล้านนาขันโตก
- ที่ตั้ง โรงแรมเพชรงาม ถนนเจริญประเทศ อำเภอเมือง
- สถาปนิก/ผู้ออกแบบ –
- ผู้ครอบครอง นายธิติ ภัทรธีรานนท์
- ปีที่สร้าง พ.ศ. 2420
- ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2530
ประวัติ
เรือนล้านนาขันโตก ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรมเพชรงาม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอาคาร 2 ชั้น สถาปัตยกรรมโคโลเนียล ชั้นบนเป็นเรือนไม้แบบล้านนาที่ก่อสร้างอย่างหรูหรา หลังคาซ้อนชั้นประดับชายคาด้วยไม้ฉลุ ชั้นล่างเป็นอาคารทรงตึกฝรั่งก่ออิฐฉาบปูนมีซุ้มโค้งกลมสลับเสาอิงโดยรอบ ตกแต่งด้วยคิ้วบัวและหัวเสาปูนปั้น
อาคารนี้ก่อสร้างโดยหลวงอนุสาร ต่อมาใช้เป็นโรงย้อมผ้าจนปี 2518 บ้านและที่ดินได้ถูกซื้อไปและสร้างเป็นโรงแรมเม็งราย ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมเพชรงาม ปัจจุบันใช้เป็นห้องจัดเลี้ยงขันโตกของโรงแรม
Ruean Lanna Khan Tok
- Location Petch Ngam Hotel, Charoen Prathet Road, Chiang Mai Province
- Architect/Designer Unknown
- Proprietor Mr. Thiri Phattarathiranon
- Date of Construction 1877 AD
- Conservation Awarded 1987 AD
History
Ruean Lanna Khan Tok is situated in Petch Ngam Hotel, Chiang Mai. It is a Colonial house with two storeys. The upper storey is built of wood in Lanna style with elaborate decoration of wooden fretwork and woodcarvings. The ground floor is European style built of brick masonry, featuring the round arches alternated with pilasters and decorated with mouldings.
The house was built by Luang Anusan in 1877. Later, it was convert in to a dyeing factory until owner of Meng Rai Hotel bought the house and land in 1975, it became part of the hotel that later changed the name to Petch Ngam Hotel. At present, it is a dininghall for “Khan Tok”, or Lanna style dinder.


