พ.ศ. 2554

บ้านป้ายิ่ง

อ่านเพิ่มเติม

บ้านป้ายิ่ง

  • ที่ตั้ง บ้านเลขที่ 145 หมู่ 3 ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
  • สถาปนิก/ผู้ออกแบบ ช่างชาวจีนไม่ปรากฏชื่อ
  • ผู้ออกแบบอนุรักษ์ กรมศิลปากร โดย วสุ โปษยะนันทน์
  • ผู้ครอบครอง บุญยิ่ง กิ่งแก้ว
  • ปีที่สร้าง พ.ศ. 2454
  • ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2554

ประวัติ

บ้านป้ายิ่งเป็นเรือนไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี นายเชยและนางอ๋วนได้สร้างขึ้นโดยใช้ช่างชาวจีนซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมกันมากในสมัยนั้น ในปี พ.ศ.2462 นายมุ่นเซ่งจั่นบุญมี บุตรนายเชยและนางอ๋วน ได้รื้อบ้านริมน้ำมาปลูกเป็นเรือนครัวทางด้านทิศตะวันออกของเรือนใหญ่โดยมีทางเดินเชื่อมต่อกัน เนื่องจากที่ตั้งของบ้านป้ายิ่ง ซึ่งมีช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนเอ่อ ทำให้ระดับน้ำสูงท่วมเป็นประจำทุกปีจึงมีการถมพื้นที่ให้สูงขึ้นประกอบกับอายุของตัวบ้าน ทำให้บ้านเตี้ยลงจนเข้าไปใช้สอยบริเวณใต้ถุนบ้านไม่สะดวก โคนเสาเรือนผุกร่อน เนื้อปูนของกระเบื้องหลังคาเสื่อมสภาพ รวมทั้งปั้นลมและฝาผนังไม้ส่วนใหญ่ได้เสื่อมสภาพไปมาก ในปี พ.ศ. 2551 นางบุญยิ่ง กิ่งแก้ว บุตรนายมุ่นเซ่ง จั่นบุญมี ผู้เป็นเจ้าของบ้านในปัจจุบัน และลูกหลาน ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมบ้านให้คงสภาพเดิมมากที่สุดเพื่อให้เหมาะสมกับการพักอาศัยดังเดิม

บ้านป้ายิ่งเป็นเรือนไม้ยกพื้นสูง ทรงสอบ หลังคาจั่วทรงจอมแห มุงด้วยกระเบื้องซีเมนต์ประตูและหน้าต่างไม้ ใช้ประตูบานเฟี้ยม มีการประดับด้วยลวดลายไม้แกะสลักที่มีความหมายมงคล การวางผังเรือนมีลักษณะปิดล้อมแบบสมมาตร แนวแกนหลักของเรือนวางตั้งฉากกับแม่น้ำเพชรบุรี มีบันได ซุ้มประตูทางเข้า ชานแดด พาไล เรือนกลาง และเรือนใหญ่วางในตำแหน่งกลางแนวแกน เรือนบริวารตั้งอยู่ทางด้านซ้ายและขวาของชานแดดด้านทิศตะวันออกของพาไล เรือนกลาง และเรือนใหญ่มีส่วนที่ต่อเติมขึ้นภายหลังเป็นระเบียงที่มีหลังคาคลุมกว้าง 2 เมตร ขนานไปกับผนังห้องทั้ง 3 เป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวและมีทางเดินเชื่อมไปเรือนครัว ลักษณะการวางผังเรือนบ้านป้ายิ่งมีอัตลักษณ์แตกต่างจากการวางผังเรือนของคนไทยพื้นถิ่นทั่วไปที่นิยมวางตามตะวัน แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมการปลูกสร้างอย่างจีนและองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมไทย ถือเป็นตัวอย่างของเรือนไทยของกลุ่มคนไทยเชื้อสายจีนในชุมชนลุ่มน้ำเพชรบุรี

การซ่อมแซมและการปรับปรุงบ้านป้ายิ่งได้มีการรื้อถอนส่วนต่อเติมที่ไม่สวยงามออก ซ่อมเปลี่ยนส่วนที่เสื่อมสภาพตามรูปแบบวัสดุ และเทคนิคช่างแบบดั้งเดิม มีการปรับดีดยกเรือนให้สูงขึ้นเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยยังคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยในปัจจุบันด้วยการสร้างอาคารต่อเติมเป็นห้องน้ำและครัวในลักษณะที่มีความกลมกลืนกับตัวบ้าน พร้อมด้วยการอนุรักษ์ระเบียงพักผ่อนที่มีความทรงจำของครอบครัวไว้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเจ้าของบ้านในการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมไทยที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

Pa Ying House

  • Location 145, Mu 3, Tambon Ban Laem, Amphoe Ban Laem, Petchburi Province
  • Architect / Designer Unknown Chinese Craftsman Conservation
  • Designer Fine Arts Department by Vasu Poshyanandana
  • Proprietor Bunying Kingkaew
  • Date of Construction 1911
  • Conservation Awarded 2011

History

Pa Ying House is a traditional house located on the bank of the Petchburi River. Mr. Choei and Mrs. Ouan hired a Chinese craftsman to build the house in a popular style at that time. In 1919, their son, Mr. Munseng Junbunme, demolished the house on the river bank to build a kitchen house in the East of the major house connected by a corridor. Due to the location of the house, it was flooded annually so the area was filled up for higher level until the basement could not be used. The house was ruined seriously. In 2008, Mrs. Bunying Kingkaew, a daughter of Mr. Munseng Junbunme, and her descendants have restored the house to its original condition as much as possible for living.

It is a single storey wooden house with raised floor. The gable roof is covered with cement roof tiles. The door panels are decorated with carved wood in floral design. The major unit and second unit are located in the center axis while the subordinate units are located on the left and right side of the open terrace. The roof terrace was built in the East for a living area of the family and there is a walkway connecting to the kitchen. The plan of the house has a unique style different from the plan of the house of the local Thai people. It is presented to a combination of Chinese and Thai architectural style, which is an example of the house of a Thai-Chinese community in the Petchburi River Basin.

The restoration used traditional materials and techniques. The house was raised higher from flooding. It also takes into account of the benefits of living with the addition of a bathroom and a kitchen that blends in with the house presenting to the determination of the owner to preserve the house as a valuable architectural heritage of the province.


บ้านเลขที่ 48 ถนนตลาดใหม่

อ่านเพิ่มเติม

บ้านเลขที่ 48 ถนนตลาดใหม่

  • ที่ตั้ง บ้านเลขที่ 48 ถนนตลาดใหม่ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  • ผู้ครอบครอง สัมพันธ์ และ สุจิต เชาวนปรีชา
  • ปีที่สร้าง พ.ศ. 2478
  • ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2554

ประวัติ

หลังจากบ้านเลขที่ 48 ถูกสร้างขึ้นได้ประมาณ 4 – 5 ปี นายสัมพันธ์ และนางสุจิต เชาวนปรีชา ได้ซื้อบ้านต่อจาก เจ้าของเดิม ขณะนั้นเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง ประกอบด้วยเรือน 2 หลัง เชื่อมต่อกันด้วยชานแล่น ต่อมาได้มีการต่อเติม พื้นที่ใช้สอยบางส่วนเพื่อให้เหมาะสมกับการพักอาศัยมากขึ้น ตลอดระยะเวลา 70 กว่าปี

บ้านเลขที่ 48 ได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีตลอดมา แม้ปัจจุบันนี้ นายสัมพันธ์ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว นางสุจิตก็ยังคงดูแลรักษาบ้านหลังเพื่อเป็นมรดกตกทอด สู่ลูกหลานตระกูลเชาวนปรีชาสืบไป บ้านเลขที่ 48 เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง ตั้งอยู่บนเสาปูน ผังพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาทรงจั่วผสมปั้นหยา มุงด้วยกระเบื้องว่าว หน้าจั่วมุขด้านหน้าเป็นไม้ลวดลายเป็นรูปรัศมีแสงพระอาทิตย์ ยอดจั่วประดับด้วยเสาไม้และลายฉลุไม้ พื้นที่บางส่วนของใต้ถุนบ้านเป็นที่เก็บเครื่องมือต่างๆ ชั้นบนของบ้านแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ส่วนหน้าประกอบด้วยบันไดไม้ ระเบียงทางเข้า ห้องรับแขก ห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ส่วนกลางเคยเป็นชานแล่น ปัจจุบันเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่อเนกประสงค์ และห้องน้ำ 2 ห้อง ส่วนท้ายประกอบด้วยห้องทำงาน ห้องนอนเล็ก ห้องครัว และบันไดคอนกรีตด้านหลังเพื่อลงไปยังสวนหลังบ้าน เสาระเบียงด้านหน้าบ้านประดับด้วยหูช้างไม้ฉลุลวดลาย และระหว่างเสาระเบียงมีเกล็ดไม้ระบายอากาศ ฝาบ้านเป็นฝาไม้กระดานแนวนอนเป็นแบบซ้อนเกล็ด และฝาแนวตั้งเป็นแบบตีชิดผิวหน้าเรียบเสมอกัน ประตูและหน้าต่างส่วนใหญ่เป็นบานลูกฟักไม้พร้อมเกล็ดไม้ระบายอากาศ ช่องแสงเหนือประตูและหน้าต่างเป็นกระจกสีโบราณส่วนช่องแสงใต้ฝ้าเพดานของมุขด้านหน้าบ้านเป็นช่องแสงกระจกใสประดับด้วยไม้ฉลุลวดลาย ช่องลมใต้ฝ้าเพดานบริเวณห้องรับแขกเป็นลูกกรงไม้แนวตั้งประดับด้วยไม้ฉลุลวดลาย ส่วนช่องลมใต้ฝ้าเพดานของห้องนอนเป็นไม้ฉลุลวดลายดอกไม้ พื้นบ้านเป็นพื้นไม้กระดานปูชิดทั้งหมด ยกเว้นส่วนของพื้นห้องครัวเท่านั้นที่ปูพื้นไม้แบบเว้นร่อง ฝ้าเพดานด้านในตัวบ้านเป็นฝ้าไม้แบบตีซ้อนกันส่วนฝ้าด้านนอกและฝ้าชายคาเป็นฝ้าแบบตีชิด

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บ้านเลขที่ 48 ได้รับการทำนุบำรุงให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอเนื่องจากเจ้าของบ้านทำธุรกิจโรงเลื่อยไม้อยู่แล้วจึงทำให้มีไม้ในการซ่อมแซมบ้าน สภาพบ้านจึงยังคงสภาพสวยงามอย่างเดิม ได้มีการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของบ้านในส่วนที่ชำรุดทรุดโทรมเป็นครั้งคราวตามกาลเวลาที่ผ่านไป ในการปรับปรุงครั้งล่าสุดนั้น เจ้าของบ้านได้มอบหมายให้ผู้ที่รับหน้าที่ดูแลบ้านปรับปรุงบ้านด้วยการทาสีย้อมไม้เพื่อรักษาเนื้อไม้ทั้งหลังในปี พ.ศ. 2551

House No. 48

  • Location 48 Talat Mai Road, Tambon Talat, Amphoe Mueang, Surat Thani Province
  • Proprietor Mr. Sampan and Mrs. Sujit Chaonaprecha
  • Date of Construction 1935
  • Conservation Awarded 2011

History

Mr. Sampan and Mrs. Sujit Chaonaprecha bought the House No. 48 after it was built for 4-5 years. At that time, it was a wooden house with a raised floor consisting of 2 units connected by a terrace. Later, some area were enlarged to suit for living. Throughout 70 years, the building has been maintained in good condition.

The house is supported by cement columns. The plan is in rectangular form. The gable hip roof is covered with kite shaped concrete roof tiles. The wood carving of the gable is in a beautiful design. Some area of the basement is for keeping tools. The house is divided into 3 parts. The front part consists of the wooden staircase, the entrance porch, the living room, the master bedroom and 2 small bedrooms. The second part used to be the terrace but now it becomes the living and dining area and 2 bathrooms. The last part consists of the working room, the small bedroom, the kitchen and the concrete stairs leading to the backyard. The pillars of the front terrace are decorated with wood carving. The space above the doors and windows are made of ancient stained glass. The openings under the ceiling are vertical bars decorated with wood carving.

As for the latest restoration in 2008, the house was painted with wood stain to preserve the wood. The House No. 48 is a valuable building that has been maintained in good condition until today.


บ้านปทุมมา

อ่านเพิ่มเติม

บ้านปทุมมา

  • ที่ตั้ง บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 ตำบลมะขุนหวาน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
  • ผู้ครอบครอง มานิตย์ และ วลัยภรณ์ เขตสิทธิ์
  • ปีที่สร้าง พ.ศ.2486
  • ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2554

ประวัติ

บ้านปทุมมาเดิมเป็นเรือนไม้สองชั้นยกพื้นสูง สร้างโดยนายทา อารีมิตร คนเชื้อสายไทยยอง ต่อมานายทาได้ยกบ้านหลังนี้ ให้นายศรีบุตร์ (บุตรเขย) และนางตุมมา ยะอนันต์ (บุตรสาว) ภายหลังจากนายศรีบุตร์และนางตุมมาถึงแก่กรรมลง บ้านหลังนี้จึงเป็นมรดกตกทอดมาถึงนางสุพิน ไชยคุณา บุตรสาว และนางบัวผิน ซึ่งเป็นหลานสาว โดยมีการต่อเติมพื้นที่ใช้สอยชั้นล่างเพื่อให้เหมาะสมกับการพักอาศัยมากขึ้น

ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 นางสุพิน และนางบัวผินได้ขายบ้านหลังนี้พร้อมที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน ให้แก่นายมานิตย์ และ นางวลัยภรณ์ เขตสิทธิ์ เนื่องจากบ้านอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก หลังคารั่ว เพดานบางแห่งผุพัง รูปทรงบ้านเอียง ฐานรากตอม่อซีเมนต์ผุหมดสภาพ พื้นชั้นล่างชำรุด นายมานิตย์ เขตสิทธิ์จึงได้ให้นายพงษ์ศักดิ์ อัมโรจน์ สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับบ้านโบราณเข้ามาช่วยตรวจสอบสภาพบ้าน และสรุปว่าสามารถซ่อมแซมให้สมบูรณ์ดังเดิมได้ เพราะสร้างด้วยไม้แดงและไม้สักซึ่งมีสภาพแข็งแรงทนทานการซ่อมแซมปรับปรุงแล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 และต่อมาได้ตั้งชื่อบ้านว่าบ้านปทุมมา

บ้านปทุมมาเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น กว้าง 13.50 เมตร และยาว 19.50 เมตร ช่วงล่างของบ้านสูง 3 เมตร และช่วงบนสูง 3.50 เมตร โครงสร้างของบ้านเป็นไม้แดง ฝาผนังไม้สัก ไม้กระดานปูพื้นชั้นบนไม้แดง ชั้นล่างปูพื้นด้วยไม้สักมีบันไดขึ้นทั้งนอกอาคารและในอาคาร มีระเบียงไม้ด้านหน้าบ้าน เพดานสูงมีช่องระบายลมใต้หลังคา 3 ด้าน หลังคาเป็นหลังคาทรงมนิลา ในการปรับปรุงซ่อมแซมที่ผ่านมาได้เปลี่ยนตอม่อฐานรากซีเมนต์เดิมและทำฐานรากใหม่เป็นตอม่อคอนกรีตเสริมเหล็ก ปรับโครงสร้างอาคารให้ตรง เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาดินเผา (ดินขอ) ที่ผุพัง ซ่อมฝ้าเพดาน ปูพื้นชั้นล่างใหม่ กั้นและต่อเติมห้องหนังสือ 1 ห้อง ปรับปรุงห้องโถงใหญ่เพื่อเป็นห้องรับแขกและใช้แสดงพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเพื่อการศึกษาและเป็นแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น ด้านหลังบ้านได้ต่อเติมห้องครัวและห้องอาหาร ห้องครัวเดิมซึ่งอยู่ชั้นบนได้ปรับปรุงบานเกล็ดหน้าต่าง และใช้เป็นห้องพักผ่อน อ่านหนังสือและทำงาน นอกจากนี้ได้ต่อเติมห้องน้ำทั้งชั้นบนและชั้นล่าง

บ้านปทุมมาแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ เสียสละทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ทรัพย์และสติปัญญาของนายมานิตย์ และนางวลัยภรณ์เขตสิทธิ์ ในการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมเพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษารูปแบบของบ้านแบบล้านนาโบราณ โดยการบูรณะปรับปรุงนี้สามารถรักษารูปแบบดั้งเดิมของอาคารไว้ได้ ทำให้บ้านหลังนี้เป็นความภาคภูมิใจของทั้งสอง

Patumma House

  • Location 152 Moo 7, Tambon Ma Khun Wan, Amphoe San Pa Tong, Chiang Mai Province
  • Proprietor Manit & Walaiporn Khetsith
  • Date of Construction 1943
  • Conservation Awarded 2011

History

Previously, Patumma House was a 2-storey wooden house with raised floor built by Mr. Ta Asimitr, a Tai Yong Ethnic. Later, the granddaughter – Mrs. Supin Chaikuna and Mrs. Supin’s daughter, Mrs. Buaphin – enlarged the space of the first floor. After that, the house was very ruined and sold to Mr. Manit and Mrs. Walaiporn Khetsith in 2007. The restoration of the house was completed in 2008 and named as “Ban Patumma”.

It is a 2-storey wooden house of 13.50 metres long and 19.50 metres high. The lower part is 3 metres high and the upper part is 3.50 metres. The structure of the house is made of redwood while the walls are made of teakwood. The first floor is made of teakwood and the second floor is made of red wood. The gable roof is covered with baked clay tiles. The hall was repaired to be a guestroom and a folk museum as a local learning center. The back of the house was enlarged with a kitchen and a dining room. The original kitchen upstairs becomes a living room for reading and working with addition of the bathrooms upstairs and downstairs.

The owners of the house have realized the value of the house in the Lanna architectural style so they have tried to preserve the original design as much as they can do to preserve it as a cultural heritage of the nation.


อาคารคุ้มเจ้าราชบุตร

อ่านเพิ่มเติม

อาคารคุ้มเจ้าราชบุตร

  • ที่ตั้ง เลขที่ 79 ถนนมหาวงศ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
  • สถาปนิก / ผู้ออกแบบ เจ้าราชบุตร
  • ผู้ครอบครอง เจ้าสมปรารถนา ณ น่าน และเจ้าวาสนา ภู่วุฒิกุล (ณ น่าน)
  • ปีที่สร้าง พ.ศ. 2484
  • ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2554

ประวัติ

อาคารคุ้มเจ้าราชบุตรถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2409 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าน้อยมหาพรหม ณ น่าน ต่อมาเมื่อเจ้าน้อยมหาพรหม ณ น่าน ได้รับการสถาปนาเป็นมหาอำมาตย์โท และนายพลตรีเจ้ามหาพรหมสุรธาดาเจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 64 จึงได้ยกคุ้มแห่งนี้ให้แก่บุตรชาย คือ เจ้าประพันธ์พงศ์ (เจ้าน้อยหมอกฟ้า ณ น่าน) ต่อมาเจ้าประพันธ์พงศ์ได้รับการเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าราชบุตรในปี พ.ศ. 2469

หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2484 เจ้าราชบุตรได้สร้างอาคารคุ้มเจ้าราชบุตรหลังปัจจุบัน โดยใช้ไม้ที่รื้อจากคุ้มเดิมของเจ้ามหาพรหมสุรธาดามาปลูกสร้างใหม่ในตำแหน่งเรือนเดิม โดยย่อขนาดลงจากหลังเดิม เมื่อเจ้าราชบุตรได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2501 อาคารคุ้มเจ้าราชบุตรหลังนี้จึงตกแก่ทายาท คือ เจ้าโคมทอง ณ น่าน ปัจจุบันเรือนหลังนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าสมปรารถนา ณ น่านและเจ้าวาสนา ภู่วุฒิกุล (ณ น่าน)

อาคารคุ้มเจ้าราชบุตร เป็นเรือนไม้ 2 ชั้นยกพื้นสูง ประกอบด้วยเรือนพักอาศัยและเรือนครัว เชื่อมต่อด้วยชานแล่น มีบันไดทางด้านหน้าและด้านหลัง บันไดด้านหน้า มีซุ้มทางขึ้นเป็นซุ้มโค้งประดับลวดลายไม้ฉลุ พื้นที่ใช้สอยชั้นล่างประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ห้องเก็บของ และบริเวณจัดแสดงของใช้ในบ้านโบราณ ส่วนพื้นที่ใช้สอยชั้นบนประกอบด้วยห้องโถง ห้องนอน พิพิธภัณฑ์ ห้องเตรียมอาหาร ห้องครัว และห้องน้ำ โดยมีระเบียงรูปตัวแอล (L) โอบล้อมห้องโถงและพิพิธภัณฑ์ทางด้านตะวันตก หลังคาหน้าจั่วหัวตัดมุงด้วยกระเบื้องว่าว ที่หน้าจั่วประดับด้วยลายไม้แกะสลักและฉลุลายเป็นรูปนาค 2 ตัว หันหน้าเข้าหากัน ตรงกลางเป็นลายดอกกลม ผนังภายนอกอาคารเป็นไม้แผ่นตีเข้าลิ้นในแนวนอน ลูกกรงระเบียงเป็นไม้ฉลุลาย หน้าต่างอาคารชั้นล่างเป็นบานลูกฟักไม้ ส่วนหน้าต่างอาคารชั้นบนเป็นบานลูกฟักไม้มีช่องแสงกระจกเหนือหน้าต่าง ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของอาคารเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกและเรือนพื้นถิ่นที่มีความสวยงาม

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาคารคุ้มเจ้าราชบุตรได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ปัจจุบันเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของเจ้าผู้ครองนครน่าน และวิถีชีวิตชาวน่านในอดีตสำหรับผู้สนใจซึ่งสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ โดยสิ่งของเครื่องใช้ที่นำมาจัดแสดงเป็นเครื่องทรงและเครื่องใช้ของเจ้าผู้ครองนครน่าน เช่น เครื่องยศพระราชทาน พระมาลากูบช้าง เครื่องครัว เครื่องใช้แบบพื้นเมือง เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องฉายภาพ ที่รีดผ้า และตู้เย็นโบราณที่ใช้น้ำมันก๊าด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายโบราณหลายภาพซึ่งล้วนมีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์จัดแสดงอยู่ด้วย

Chao Ratchabutr House

  • Location 79 Mahawong Road, Tambon Nai Wiang, Amphoe Mueang, Nan Province
  • Architect / Designer Chao Ratchabutr
  • Proprietor Chao Sompradthana Na Nan & Chao Wassana Puwuthikul (Na Nan)
  • Date of Construction 1941
  • Conservation Awarded 2011

History

The former Chao Ratchabutr House was built for the residence Chao Noi Mahaprom Na Nan in 1866. When he was appointed to be the ruler of Nan, he gave this house to his son who was promoted the title as Chao Ratchabutr in 1926. In 1941, he built the present current Chao Ratchabutr House by using wood from the demolition of the old one but smaller than the original size. When he passes away in 1958, the building was owned by his heir, Chao Komthong Na Nan. Presently, it belonged to Chao Sompradthana Na Nan and Chao Wassana Puwuthikul (Na Nan).

It is a 2 storey house with raised floor. There are stairs in the front and the back. The archentrance of the front stairs is decorated with wood carving. The first floor consists of a museum, a store and an exhibit room of ancient items. The upper floor consists of a hall, bedrooms, a museum room, a dining room, a kitchen and a bathroom. The L-shaped balcony is surrounded the hall and the museum in the West. The gable roof of woodwork is covered with kite shaped concrete roof tiles. The gable is decorated with wood carving in a design of 2 Nagas (serpent) facing each other. The beautiful architecture of the building is a mixture of the western and local art styles.

The house has been well preserved as a knowledge center of history of the rulers of Nan and the lifestyle in the past. The ancient items on display are traditional dresses and utensils used by the rulers as well as local appliances, which are very valuable for the history of the nation.


น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้