พ.ศ. 2537

วรรณศิลป์สโมสร วัดเทพธิดาราม (กุฏิสุนทรภู่)

อ่านเพิ่มเติม

วรรณศิลป์สโมสร วัดเทพธิดาราม (กุฏิสุนทรภู่)

  • ที่ตั้ง เขตสังฆาวาส (คณะ 7) วัดเทพธิดาราม ถนนมหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
  • สถาปนิก/ผู้ออกแบบ –
  • ผู้ครอบครอง วัดเทพธิดาราม
  • ปีที่สร้าง พ.ศ.2379
  • ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2537

ประวัติ

สุนทรภู่ หรือพระสุนทรโวหาร กวีเอกแห่งรัตนโกสินทร์นั้น ท่านมีชีวิตที่โลดโผนและมีสีสัน โดยช่วงหนึ่งของชีวิตท่านได้บรรพชาเป็นพระภิกษุอยู่ถึง 15 ปี และได้จำพรรษาที่วัดเทพธิดารามอยู่ 3 ปี ณ กุฏิในหมู่กุฏิคณะ 7 วัดเทพธิดาราม ซึ่งเป็นอาคารผังรูปตัวยู ล้อมที่ว่างภายใน ลักษณะสถาปัตยกรรมไทยผสมจีนแบบพระราชนิยมในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวและมีซุ้มประตูแบบฝรั่ง ในกุฏิหมู่นี้มีห้องอยู่ 4-5 ห้อง ห้องของท่านสุนทรภู่อยู่ฝั่งซ้ายของซุ้มทางเข้าด้านทิศเหนือ

เมื่อวัดเทพธิดารามก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2382 พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพได้ทรงนิมนต์พระภิกษุภู่ ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดราชบูรณะตั้งแต่ พ.ศ. 2370 ให้มาจำพรรษาที่วัดนี้ และพระภิกษุภู่ได้จำพรรษอยู่ที่นี่เรื่อยมาจากปี พ.ศ. 2382 ขนลาสิกขาบทในปี พ.ศ. 2385 ขณะนั้นท่านมีอายุ 56 ปี ระหว่างนั้นสันนิษฐานว่าท่านได้ใช้กุฏิเป็นที่สร้างผลงานประพัธ์ที่สำคัญหลายเรื่อง อาทิ โคลงรำพันพิลาป พระอภัยมณี นิราศสุพรรณ และกาพย์พระไชยสุริยา โดยเฉพาะในโคลงรำพันพิลาป ท่านได้พรรณนาถึงลักษณะปูชนียสถาน ปูชนียวัตถุ และความงามของพระอารามไว้อย่างละเอียด

ปัจจุบันทางวัดได้อนุรักษ์กุฏินี้ไว้เป็นอนุสรณ์ถึงท่านสุนทรภู่ กวีเอกของไทย เรียกว่า วรรณศิลป์สโมสร ภายในมีรูปหล่อครึ่งตัวของท่านสุนทรภู่ และจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของท่าน

Chiang Mai British Consulate (former)

  • Location Amphoe Mueang, Chiang Mai Province
  • Architect/Designer Unknown
  • Proprietor Mr. Sura Chansichawala
  • Date of Construction circa 1913 – 1915 AD
  • Conservation Awarded 1989 AD

History

The former Chiang Mai British Consulate is a 2-storey house of Colonial style. The ground floor is surrounded by colonnades and the first floor by verandahs. It is said that the style similar to Colonial building in India. The appearance is simple, sincere, and very homely. The building was constructed circa 1913, during the time that Mr. William Alfred Rae Wood was the Consul General, who, later, also involved in the planning and design of the British Embassy in Bangkok. At first built, the consulate comprised the residences, office, courtroom, servant house, and stables for elephants that the Consul used for transportation. The consulate was officially opened in 1915, but later it was moved, and the property has been sold to private owner.


อาสนวิหารอัสสัมชัญ

อ่านเพิ่มเติม

อาสนวิหารอัสสัมชัญ

  • ที่ตั้ง ซอยโอเรียลเต็ล (เจริญกรุง 40) ถนนเจริญกรุง กรุงเทพมหานคร
  • สถาปนิก/ผู้ออกแบบ –
  • ผู้ครอบครอง มิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพ
  • ปีที่สร้าง พ.ศ. 2452
  • ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2537

ประวัติ

โบสถ์อัสสัมชัญ ก่อสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกราวปี พ.ศ. 2352 โดยบาทหลวงปาสกัล เพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระนางมารีอาที่ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2364 และได้รับสถาปนาเป็นอาสนวิหารในปีถัดมา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2452 ได้มีการก่อสร้างโบสถ์ขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของคริสตศาสนิกชน โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ ตัวอาคารโครงสร้างผนังรับน้ำหนัก ใช้ฐานรากแผ่ทำด้วยท่อนซุงมัดเรียงกันเป็นแพมีความสูงถึงยอดหอคอยที่ขนาบอยู่ 2 ข้างของด้านหน้า 32.00 เมตร และมียอดจั่ว 25.60 เมตร ผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางตามแนวแกนตะวันออก-ตะวันตก รูปแบบสถาปัตยกรรมภายนอกเป็นแบบโกธิครีไววัล ภายในตกแต่งด้วยองค์ประกอบคลาสสิค โบสถ์หลังนี้เคยเสียหายด้วยแรงระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้มีการบูรณะเสริมโครงสร้างและใช้เหล็กเส้นยืดผนังด้านยาวทั้งสองฝั่งเข้าหากัน

ภายในโบสถ์เพดานโค้งครึ่งวงกลมอย่างอาคารในยุคโรมัน ประดับด้วยลวดลายดาว รองรับด้วยทิวเสากลม ตกแต่งผนังด้วยจิตรกรรมปูนเปียก (fresco) และประติมากรรมปูนปั้น พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนในสุดมีพระแท่นหินอ่อนขนาดใหญ่ เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนกลางเป็นที่นั่งของผู้ร่วมพิธี ด้านข้างมีช่องคูหาประดิษฐานรูปนักบุญต่างๆ และส่วนโถงทางเข้า มีชั้นลอยซึ่งเคยเป็นที่สำหรับนักขับร้องและออร์แกนขนาดใหญ่

Assumption Cathedral

  • Location Soi Oriental (Charoen Krung 40), Charoen Krung Road, Bangkok
  • Architect/Designer Unknow
  • Proprietor Bangkok Roman Catholic Mission
  • Date of Construction 1909 AD.
  • Conservation Awarded 1994 AD.

History

Assumption church was founded circa 1809 by Rev. Pascak to honour the Assumption of Maria. The Chruch construction was completed in 1821, and was established as a Cathedral in the following year.

Later in 1909, a new church was built to serve the increasing number of Christians in the community. The Chruch was designed by a French architect, with wall-bearing structure, raft foundation made from logs tied up together like a raft, the height to the top of the towers is 32.0 metres and to the top of gable 25.60 metres. The plan is rectangular, laid on east-west axis.

The architecture is Gothic Revival style, whereas the interior is decorated with Classical elements. During WWII, the church was partially damaged thus a restoration with structural consaolidation was carried out, including the stell rods that hold the longitudinal walls together.

Inside thr church is a round arched ceiling in Roman style decorated with stars, supported by colonnades. The walls are decorated with fresco and stuccos. The interior space is divided into 3 parts, the altar, the seating area, and the entrance hall, above which is a mezzanine where the choir and a big organ once stood.


น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้