สวัสดีปีใหม่ 2567 ครับ สำหรับจดหมายเหตุอาษาฉบับนี้ จะเป็นเล่มพิเศษที่กล่าวถึงที่มางานอาษา’67 Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์ และประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานของฝ่ายต่างประเทศ หลายครั้งมักจะมีสมาชิกผู้ใหญ่สอบถามเข้ามาว่า “งานฝ่ายต่างประเทศทำแล้วได้อะไร ?” คำตอบของคำถามเหล่านั้น จากทีมคณะกรรมการบริหารและนโยบายของนายกสมาคมฯในอดีต จะมีคำตอบร่วมกัน คือ กิจกรรมที่สร้างสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ การสร้างความคุ้นเคยที่จะนำไปสู่การพัฒนา วางแผนว่าด้วยภาพรวมและทิศทางของโลกที่ควรจะก้าวไป การสนทนาร่วมกันนั้นหลายครั้งจะเป็นโยชน์ที่จะนำมาใช้ทันที หรือ อาจยังไม่มีประโยชน์ที่พร้อมนำมาใช้ในบ้านเราก็ตาม แต่ก็เป็นความรู้ที่ทุกประเทศได้ร่วมแลกเปลี่ยนอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะทั้งสิ้น
ในโลกทุกวันนี้ที่การสื่อสารออนไลน์สะดวกสบาย ทำให้กิจกรรมระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในวาระคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ประจำปี 2565-2567 จะขอยกตัวอย่างของการรวมทีม 4 ประเทศเพื่อนบ้าน (4 Nations) ประกอบด้วย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์และไทย เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม คลอบคลุมไปจนถึงการผลักดันทั้งกลุ่มเด็กและเยาวสถาปนิก ที่เป็นนิสิตนักศึกษาได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศในกิจกรรม workshop ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดถึงเรื่อง Sustainable Design Goal ที่เป็นพื้นฐานหลัก เป็นวาระของโลกในปัจจุบันและอนาคต เพื่อปลูกฝังกันตั้งแต่รุ่นเยาว์ ในการเตรียมความพร้อมที่จะก้าวไปสู่สถาปนิกที่จะปฏิบัติวิชาชีพสถาปัตยกรรมได้อย่างเต็มตัว อีกทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ผ่านมาที่มีประโยชน์เกิดเป็นรูปธรรม เช่น การเข้าร่วมงาน AIA (The American Institute of Architects) ที่ได้รับมอบหนังสือ The Architect’s Handbook of Professional Practice และ The Architect’s Studio Companian การจัดกิจกรรม workshop ร่วมกับทาง JIA (Japan Institute of Architects) ซึ่งนำไปสู่การส่งมอบองค์ความรู้เป็นหนังสือชื่อ Handbook of Handicap เพื่อให้ทางสมาคมฯได้นำกลับมาเผยแพร่บริการแก่สมาชิกในห้องสมุด (สมาชิกสามารถดูลิงค์ตัวอย่างหนังสือได้ในภายในเล่ม) หรือที่ผ่านมาสถานการณ์โควิดที่ทั้งโลกประสบ สมาคมสถาปนิกสยามฯได้ร่วมแชร์องค์ความรู้การออกแบบเตียงผู้ป่วย เพื่อรองรับโรคระบาด ซึ่งบางประเทศได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมเช่นกัน ยังมีกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเร็วๆนี้ คือทาง SIA (Singapore Institute of Architects) จะนำผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และเล่าช่วงเวลาที่สิงคโปร์พัฒนาวิธีการขออนุญาตก่อสร้าง มาบรรยายให้ทางกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นองค์ความรู้และแนวทางในการพัฒนาปรับใช้ให้กับบ้านเราต่อไป นอกเหนือจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีแล้ว เรายังใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นเวทีที่นำสมาชิกสถาปนิกไทยที่มีผลงานและความสามารถอันโดดเด่น ออกสู่เวทีนานาชาติ โดยเริ่มจากในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงและต่อยอดผลักดันไปสู่เวทีระดับโลกเช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างปีที่ทุกท่านได้เห็นมาในกิจกรรมที่เชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศที่มีทั้งความสุข สนุกสนาน สาระ และ ขณะเดียวกันทำให้ประเทศไทย เป็นที่ยอมรับในกลุ่มสถาปนิกทั้งในระดับโลก (UIA) หรือในระดับภูมิภาคเอเชีย (ARCASIA) รวมทั้งสิ้น 23 ประเทศ ยังเป็นพื้นที่แสดงศักยภาพของนักออกแบบไทย ออกสู่สายตาชาวโลก เพราะฉะนั้นเมื่อพูดถึงการเข้าร่วมกิจกรรมในต่างประเทศนั้น อาจจะไม่ใช่คำตอบว่าเราไปร่วมกิจกรรมแล้วได้ประโยชน์อย่างไร ? งานฝ่ายต่างประเทศทำแล้วได้อะไร ? คำตอบจึงมี 2 ทางว่า เมื่อไป เราให้ประโยชน์ต่อเพื่อนบ้างแค่ไหน และนำสิ่งใดกลับมาให้การดำเนินชีวิตในเมืองไทยดีขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจติดตามและสนับสนุนสมาคมฯเสมอมา พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ
นายชนะ สัมพลัง
นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี พ.ศ. 2565-2567