แก้ไขเพิ่มเติมพรบ.อนุรักษ์พลังงาน
4 ธ.ค. 2550
ตามที่ได้เคยแจ้งข่าว พพ.แก้ไขเพิ่มเติมและจัดระเบียบกฎหมายอนุรักษ์พลังงาน เมื่อต้นปี 2550 ขณะนี้ “พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550” ได้ประกาศออกมาแล้ว โดยจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน (12 พ.ค. 2551)
สาระสำคัญที่น่าสนใจในการปรับปรุงพรบ.นี้ ได้แก่
การอนุรักษ์พลังงานในโรงงาน – ยกเลิกมาตราที่ว่าด้วยหน้าที่ของเจ้าของโรงงานควบคุม และที่เกี่ยวกับผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน (มาตรา 11-16) และเพิ่มเติมให้สามารถออกกฎกระทรวงกำหนดให้เจ้าของโรงงานควบคุมต้องจัดให้มีผู้รับผิดชอบด้านพลังงานประจำในโรงงานควบคุมแต่ละแห่ง ตลอดจนกำหนดคุณสมบัติและหน้าที่ของผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน ดังนั้น ต่อไปเรื่องดังกล่าวจะไปอยู่ในกฎกระทรวงแทน ซึ่งจะแก้ไขในภายหลังได้ง่ายกว่าการแก้พระราชบัญญัติ นอกจากนั้น หากเป็นรายละเอียดทางด้านเทคนิค วิชาการ หรือเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม ก็สามารถให้รัฐมนตรีออกเป็นประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็ได้โดยไม่ต้องกำหนดในกฎกระทรวง
การอนุรักษ์พลังงานในอาคาร – เดิมในมาตรา 19 รัฐมนตรีสามารถออกกฎกระทรวงกำหนดค่าการถ่ายเทความร้อนรวมของอาคารและการใช้พลังงานในอาคาร, หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการประเมินหาค่าการถ่ายเทความร้อนของวัสดุก่อสร้างอาคาร ค่าการถ่ายเทความร้อนรวมของอาคาร และการใช้พลังงานในอาคาร, มาตรฐานการปรับอากาศ การทำน้ำร้อนและการให้ความร้อนในอาคาร ได้แก้ไขเป็นให้รัฐมนตรีสามารถออกกฎกระทรวงในเรื่อง (1) กำหนดประเภท หรือขนาดของอาคารที่จะทำการก่อสร้างหรือดัดแปลงที่จะต้องมีการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และ (2) กำหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์และวิธีการในการออกแบบอาคารตาม (1) เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
ดังนั้นต่อไปก็จะมีกฎกระทรวงที่กำหนดประเภท/ขนาดอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ วิธีการต่างๆ ที่สถาปนิกวิศวกรจะต้องคำนึงถึงตั้งแต่การออกแบบอาคาร ไม่ใช่มาคำนึงถึงในการใช้อาคารอย่างในปัจจุบัน และนอกจากนั้น หากเรื่องใดมีการกำหนดรายละเอียดทางด้านเทคนิค วิชาการ หรือเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม ก็สามารถออกเป็นประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้เพื่อสะดวกแก่การแก้ไขปรับปรุง
ส่วนเรื่องหน้าที่ของเจ้าของอาคารควบคุม และที่เกี่ยวกับผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน ก็ได้แก้ไขให้เป็นเช่นเดียวกับโรงงานควบคุม
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน – เดิมอยู่ในกระทรวงการคลัง ได้ย้ายมาอยู่ในกระทรวงพลังงาน และปรับเปลี่ยนคณะกรรมการกองทุนโดยตำแหน่งบางตำแหน่ง คือ เพิ่มรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงการคลัง ตัดปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และเปลี่ยนจากนายกวิศวกรรมสถานฯ เป็นนายกสภาวิศวกรและนายกสภาสถาปนิกแทน ดังนั้น ต่อไปสถาปนิกก็จะเข้าไปมีบทบาทในคณะกรรมการกองทุนนี้ด้วยจากเดิมที่ไม่มีบทบาท
ในระหว่าง 6 เดือนก่อนที่จะมีผลใช้บังคับจริง ก็คงจะมีการจัดทำกฎหมายลูกต่างๆ ออกใช้เพิ่มเติมและแทนฉบับเดิม ซึ่งรวมถึง พระราชกฤษฎีกากำหนดโรงงานควบคุมและอาคารควบคุม กฎกระทรวงเรื่องต่างๆ และประกาศกระทรวงพลังงานซึ่งกำหนดรายละเอียดทางด้านเทคนิคต่างๆ โดยขอให้ติดตามการออก “กฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดประเภทและขนาดอาคาร และการออกแบบอาคารเพื่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน” ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการประกอบวิชาชีพของสถาปนิกและวิศวกรเป็นอย่างมาก