จัดสรรที่ดินกลางไฟเขียวต่ออายุการยกเว้นผ่อนผันสำหรับโครงการจิ๋ว
คัดจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 28-30 เม.ย. 2554
บอร์ดจัดสรรที่ดินกลาง ไฟเขียวตามที่กรมที่ดินเสนอ ขยายเวลา โครงการจิ๋วอีก 3 ปี นับจาก 1 ม.ค. 55 เป็นต้นไป พร้อมเพิ่มสัดส่วนจำนวนแปลงที่ดินจำหน่าย เขตกทม.-อำเภอเมือง จาก เดิม 2 ไร่ 20 หน่วยเป็น 32 หน่วย เขตอบต. 4 ไร่ 30 หน่วยเป็น 40 หน่วย ไม่ต้องทำสาธารณูปโภค กันพื้นที่สวนสาธารณะ 5% ของพื้นที่ขาย -พื้นที่สร้างนิติบุคคลบ้านฯ ระบบระบายน้ำ ถนน น้ำประปา ตามกฎหมายจัดสรรกำหนด ขจัดปัญหาเลี่ยงก.ม. หลังประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบันมียื่นแล้ว 157 ราย
จากกรณีที่กรมที่ดินผ่อนปรนให้โครงการขนาดเล็ก ในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.) เขตอำเภอเมือง เขตเทศบาล สามารถยื่นขออนุญาตจัดสรรที่ดิน เนื้อที่ไม่เกิน 2 ไร่ 20 แปลง และในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) หรือ นอกเขตเทศบาล เนื้อที่ 4 ไร่ 30 แปลง ไม่ต้องจัดทำสาธารณูปโภคตามที่กฎหมายกำหนด และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2552 และมีผลบังคับใช้ถึงสิ้นปี 2554 นั้น
ล่าสุด แหล่งข่าวจากกรมที่ดินเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน มีมติเห็นชอบ ประกาศกรมที่ดิน เรื่อง การยื่นขออนุญาตจัดสรรสำหรับโครงการขนาดเล็กพิเศษ (โครงการจัดสรรจิ๋ว) ไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดทำสาธารณูปโภคให้เป็นไปตามข้อกำหนดการจัดสรรที่ดิน
นอกจากนี้ ประกาศกรมที่ดินดังกล่าวยังได้พิจารณาจะขยายจำนวนแปลงที่จะจัดจำหน่าย เพิ่มขึ้นจากที่ประกาศไว้เดิมด้วย กล่าวคือ พื้นที่จัดสรรในเขตกทม. เมืองพัทยา และเขตอำเภอเมือง เขตเทศบาลทั่วประเทศ กำหนดให้แบ่งแปลงย่อยสำหรับโครงการจัดสรรจิ๋วจำนวนไม่เกิน 32 แปลง (จากเดิมไม่เกิน 20 แปลง) บนที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่ และโครงการจัดสรรที่ดินจิ๋วในเขตท้องที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือนอกเขตเทศบาลทั่วประเทศ กำหนดให้แบ่งแปลงย่อยได้ไม่เกิน 40 แปลง (จากเดิมไม่เกิน 30 แปลง) บนที่ดิน 4 ไร่
ทั้งนี้ประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป โดยกำหนดระยะเวลาบังคับใช้ 3 ปี
สำหรับการยกเว้นไม่ต้องจัดทำสาธารณูปโภค -บริการสาธารณะ เท่ากับโครงการขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ เพื่อช่วยลดต้นทุนและดึงโครงการเลี่ยงจัดสรรเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด ซึ่งประกอบด้วยไม่ต้องจัดทำสวนสาธารณะสนามเด็กเล่น 5% ของพื้นที่ขาย ไม่ต้องกันพื้นที่ตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร หรือมีนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรดูแลในอนาคต ได้รับผ่อนปรนเกี่ยวกับขนาดถนนในโครงการ และมาตรฐานไม่ต้องเทียบเท่ากับโครงการขนาดปกติทั่วไป เพียงแค่ลาดยางมะตอยให้รถสามารถวิ่งเข้า-ออกได้หรือผู้อยู่อาศัยสามารถสัญจรไปมาได้ก็พอ โดยผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนทำเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก
นอกจากนี้ ยังผ่อนปรนไม่ต้องจัดให้มีมาตรฐานการกำจัดขยะมูลฝอย ระบบระบายน้ำ เป็นต้น แต่ในเขตกทม. เทศบาลหรือเขตอำเภอเมือง จะบังคับให้ต้องใช้น้ำจากการประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เนื่องจากมีระบบประปาเข้าถึงพื้นที่อย่างแน่นอน ส่วนโครงการจัดสรรจิ๋วนอกเขตเทศบาลหรือ อบต. จะผ่อนปรนให้ใช้น้ำประปาหมู่บ้านได้ กรณีที่น้ำประปาของกปภ.เข้าไม่ถึง เป็นต้น แต่ขนาดบ้านจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานคือ บ้านเดี่ยวขนาดเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 50 ตารางวา
โครงการจัดสรรที่ดินขนาดเล็กพิเศษ หรือโครงการจัดสรรจิ๋ว เป็นแนวคิดของอธิบดีกรมที่ดินคนปัจจุบันที่ต้องการลดปัญหาโครงการที่หลบเลี่ยงการจัดสรรที่ดินให้เข้าสู่ระบบที่ถูกกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่ซื้อบ้าน จึงได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การขออนุญาตจัดสรรในเขตเมืองเพื่อให้ขออนุญาตได้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกันโครงการจิ๋ว จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กและเพื่อช่วยให้เกิดนักพัฒนาที่ดินรุ่นใหม่ ที่เกิดจากการเริ่มทดลองลงทุนด้วยทุนก้อนเล็กๆไปก่อน แล้วค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นตามประสบการณ์ ซึ่งนอกจากช่วยประหยัดต้นทุนแล้วจะไม่ต้องเสี่ยงต่อการลงทุน ขณะเดียวกัน ช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กลดขนาดของโครงการให้เล็กลงเพื่อสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ที่สำคัญไม่ต้องคอยหลบเลี่ยงพ.ร.บ.จัดสรร และผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายจัดสรร ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง ที่มีชื่อเสียงจะไม่ให้ความสนใจกับโครงการจิ๋วเนื่องจากมีสายป่านที่ดีพอสามารถพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ได้ และไม่ต้องการเสียภาพลักษณ์
จากการสำรวจโครงการจัดสรรที่ดินจิ๋ว ทั้งในเขตกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ทั่วประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2552 จนถึงปัจจุบัน (25 เมษายน 2554) พบว่ามีผู้ประกอบการและเจ้าของที่ดินยื่นขออนุญาตเข้ามาจำนวน 157 ราย ซึ่งถือว่า มาตรการดังกล่าวประสบความสำเร็จและมีผู้ให้ความสนใจมากพอสมควร