คสช.ออกคำสั่งให้จัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่อีอีซี
25 ต.ค. 2560
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออก “คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 47/2560 เรื่อง ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2560
ในคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับดังกล่าว ได้กล่าวถึงเจตจำนงแน่วแน่ที่จะพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกซึ่งจะพัฒนาให้เกิดขึ้นในจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางแผนการใช้ที่ดินให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่และศักยภาพของที่ดินตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่เนื่องจากปัจจุบันการปรับปรุงกฎหมายและการจัดทำกฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกไม่สามารถเตรียมการหรือวางข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ในที่ดินในพื้นที่ทั้งสามจังหวัดให้สอดคล้องกันได้ เป็นอุปสรรคสำคัญยิ่ง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องวางข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ในที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกขึ้นเป็นการเฉพาะ เพื่อให้การดำเนินการต่อไปเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ตามคำสั่งฯ กำหนดให้ คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) เป็นผู้จัดทำนโยบายและแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก แผนการใช้ประโยชน์ที่ดินในภาพรวม แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค และแผนการดำเนินงาน เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเพื่อให้ความเห็นชอบ จากนั้น ให้สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดทำรายละเอียดของแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ให้แล้วเสร็จภายในหกเดือนนับแต่วันที่คณะกรรมการนโยบายฯให้ความเห็นชอบ โดยในการดำเนินการ ให้สร้างความรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่ และรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้เสีย ประชาชน และชุมชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ ในระหว่างการจัดทำแผนผังดังกล่าว มิให้นำกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองมาใช้บังคับแก่การจัดทำแผนผังนั้น
เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนผังแล้ว ให้ผังเมืองรวมเดิมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองในส่วนที่ใช้บังคับในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเป็นอันยกเลิกไป ให้แผนผังดังกล่าวถือว่าเป็นผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองสำหรับแต่ละจังหวัดโดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นอายุ และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งดำเนินการจัดทำผังเมืองขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับแผนผังดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี