ISA โครงการพัฒนาวิชาชีพ ครั้งที่ 4/67
ISA Building Material Visit Series รอบรู้เรื่องวัสดุก่อสร้าง ครั้งที่ 2-67 :
“Visit BlueScope Design Award Winning 2023”
วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08:00 – 17:00 น.
ณ อ.บางใหญ่ และ อ.ไทรน้อย จ. นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2566 ISA สถาบันสถาปนิกสยาม ได้จัดกิจกรรม ISA โครงการพัฒนาวิชาชีพ ครั้งที่ 4/67 ISA Building Material Visit Series รอบรู้เรื่องวัสดุก่อสร้าง ครั้งที่ 2-67 หัวข้อ “Visit Bluescope Design Award Winning 2023” ได้พาสมาชิกสมาคมสถาปนิกสยาม เข้าเยี่ยมชม อาคารบุญส่งโอสถ ออฟฟิศ (BOONSONG OSOT OFFICE) ผลงานชนะเลิศ BLUESCOPE Building of The Year 2023 ออกแบบโดย คุณสุรชัย เอกภพโยธิน และ คุณจุฑาทิพย์ เตชะจำเริญ บริษัท Office AT ที่บางใหญ่ จ.นนทบุรี
โดยช่วงเช้าได้พาสมาชิกสมาคมเดินทางด้วยรถตู้ จำนวน 3 คัน มาถึง อาคารบุญส่งโอสถ ได้รับการต้อนรับจากคุณเสรี เจ้าของบุญส่งโอสถ และได้รับฟังการบรรยายการเรื่องการออกแบบและพาเดินเยี่ยมชมอาคาร โดย คุณสุรชัย เอกภพโยธิน และ คุณจุฑาทิพย์ เตชะจำเริญ บริษัท Office AT
การออกแบบออฟฟิศบุญส่งโอสถ มีแนวคิดที่ต้องการสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทในแง่ที่สามารถประยุกต์สมุนไพรโบราณให้กลายเป็นยาแผนปัจจุบันได้ ก็เลยเลือกหยิบยืมรูปแบบบ้านเรือนไทยโบราณที่มีห้องต่างๆ แยกกันอยู่โดยรอบ แต่ทุกห้องจะถูกเชื่อมกันด้วยชานบ้าน ให้กับบริษัท บุญส่งโอสถ ซึ่งเป็นบริษัทขายยาที่ผลิตจากสมุนไพรไทยโบราณ เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างทำหน้าที่คล้ายโถงแบบบ้านเรือนไทย แต่ไม่ได้โล่งทั้งหมดยังมีพื้นที่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน และมีแนวกำแพงที่เป็นช่องแสงและช่องลมทำหน้าที่สร้างความปลอดภัยให้กับพื้นที่ด้านใน ชั้นสองเป็นส่วนของออฟฟิศและพื้นที่เอนกประสงค์ ส่วนชั้น 3 จะเป็นส่วนห้องพักรับรองแขกของบริษัท
form ของอาคารออฟฟิศ ประกอบไปด้วย mass อาคารหลายก้อนแยกออกจากกัน ล้อมพื้นที่คอร์ทต้นไม้ตรงกลาง และมีชานเชื่อมต่อทุกส่วนเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ออฟฟิศมีบรรยากาศที่มองเห็นสวนทุกห้อง มีพื้นที่ใช้งานที่หลากหลาย ทั้งพื้นที่ภายใน ห้องทำงาน และพื้นที่ภายนอกห้องที่สามารถทำงานได้ เป็นทางเลือกให้พนักงานใช้งานได้ทั้งพื้นที่ และสามารถช่วยในเรื่องการระบายอากาศธรรมชาติได้ดีด้วย ส่วนพื้นที่ด้านหลังติดกันเป็นอาคารโรงงานและ warehouse
โครงสร้างอาคารชั้นล่างเป็น ค.ส.ล. เรื่องของความประหยัดและแข็งแรง ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 เป็น โครงสร้างเหล็กซึ่งเหมาะสมกับรูปแบบของ mass อาคารที่มีหลายก้อน และมีหลังคาจั่ว ที่มีสันหลังคาทแยงสลับไปมา เพื่อให้รูปแบบอาคารดูมีความร่วมสมัย
ภาษาของสถาปัตยกรรม ใช้สีไม้เพื่อแสดงถึงความเป็นเรือนไทยไปพร้อมๆ กับช่องกระจกอลูมิเนียมที่แบ่งระยะแคบมีด้านล่างเป็นช่องปิดเลียนแบบฝาปะกนของบ้านเรือนไทย ด้านนอกมีแนวเสาที่เรียงกันเป็นโคโรเน็ตบริเวณคอร์ทตรงกลางเน้นชายคาที่เป็นพื้นที่ grey space แบบอาคารเรือนไทย ส่วนด้านหลังใช้เป็นสีเทาเข้มวัสดุ metal sheet เพื่อให้เชื่อมต่อกับส่วนที่เป็นโรงงาน และมีหลังคาเป็น metal sheet ที่เหมาะสมกับรูปแบบหลังคาที่ซับซ้อนโดยซ่อนรางน้ำฝนไว้ที่ผนัง double wall
กิจกรรมในช่วงบ่าย เดินทางไปเยี่ยมชม อาคาร ASSAVA METAL experience ที่ BLUESCOPE แนะนำว่าต้องมาเยี่ยมที่นี่จะได้แรงบันดาลใจเรื่องของ Metal ที่นี่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับmetal ทุกรูปแบบ และยังมีบริการต่างๆ มากมาย ได้แก่ บริการออกแบบ, บริการงานปริ้น 3D, บริการตัด พับ เลเซอร์ วีคัท, บริการสลิท, บริการรีคอยล์, บริการรีดขึ้นรูป, บริการพ่นสีด้วยระบบ powder coating, บริการขัดผิวโลหะ ,งานสร้างอาคาร โกดัง โรงงาน สำนักงาน RANBUILD ครบจบในที่เดียว
เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการบรรยายที่ห้องประชุมที่กรุผนังภายในด้วย metal หลายรูปแบบ ที่ร่วมออกแบบและติดตั้งจากทีมของ Assava metal กับ น้องๆ ปวช ที่มาฝึกงาน ที่เป็นวิชั่นว่าขนาดน้องๆ ปวช ยังติดตั้งได้ง่าย ช่างทั่วๆ ไปก็ติดตั้งได้ จากคุณประชา อัศวนิเวศน์ ผู้บริหาร ที่วันนี้มาต้อนรับคณะของเราด้วยตัวเอง อย่างอบอุ่น เล่าที่มาที่ไปของการเข้ามาสู่วงการเหล็ก โดยจบแค่ชั้น ม.6 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็น Assav ametal ในวันนี้ ที่เต็มไปด้วย passion ในการทำงานคลุกคลีอยู่กับ metal ทำให้เกิด idea ที่อยากทำกลายสิ่งอย่าง และสิ่งหนึ่ง คือ อาคารโชว์รูมและศูนย์ experience ที่เรามาเยี่ยมวันนี้ เป็นอาคารโครงสร้างเหล็ก สูง 4 ชั้น พื้นที่ประมาณ 9,000 ตรม. ที่คุณประชาเล่าอย่างภูมิใจว่า ออกแบบและสร้างจสกทีมงานที่นี่ทั้งหมด โดยใช้เวลาออกแบบ ผลิตและเตรียมการ 3 เดือน และติดตั่งโครงสร้างทั้งหมดเสร็จภายใน 10 วัน และวันนี้จะเป็นให้คณะของเราเข้าเยี่ยมชมทั้งหมด
พื้นที่ภายใน ประกอบด้วยชั้นล่างเป็นโชว์รูมสินค้า ร้านกาแฟที่ทำไว้เลี้ยงแขกไปใครมา อร่อยมากทั้งกาแฟและเบเกอรรี่ ที่น่าสนใจ คือ ห้องบรรยายที่กรุด้วยแผ่น metal ทั้งฉลุ ทั้งพับหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการฉลุและซ่อนรูปลายม้าโลโกของบริษัทเอาไว้ พื้นที่ชั้น M เป็นห้องทำงาน ห้องประชุม และพื้นที่นวัตกรรมผนังในการทำห้องรูปแบบต่างๆ ที่บริษัทผลิต หลากหลายรูปแบบ สีสรรค์ และเทคนิคการติดตั้ง เพื่อเป็นตัวอย่างให้ทั้งลูกค้า และช่างที่สนใจการติดตั้งได้มาเยี่ยมชม ชั้น 3 เป็นห้องทำงาน ห้องประชุม และ warehouse เฟอร์นิเจอร์จีนของสะสมของคุณประชา ที่ต่อยอดมาจากการทำร้านอาคารสุกี้ การ์เดนท์ และชั้น 4 เป็นโชว์รูมรถ 100 กว่าคัน เป็นของสะสมอีกอย่างของคุณประชา ซึ่งส่วนมากเป็นรถจากญี่ปุ่นและรถแข่งพร้อมอะไหล่ ตื่นตาตื่นใจมาก ซึ่งพื้นชั้นนี้แสดงให้เห็นความแข็งแรงของระบบพื้นที่หล่อในที่บนแผ่น metal deck และโครงหลังคาที่ทำจากเหล็ก super dyma เรียกว่าทั้งตึกเต็มไปด้วยจิตนาการ และนวัตกรรมที่เกิดจากความตั้งใจของคุณประชา เรียกว่าใครได้มาชมก็ต้องทึ่งในการคิดและทำมาก
ก่อนจบการเยี่ยมชม คุณประชายังพาไปชมพื้นที่ด้านหน้าอาคาร ที่ทำเป็น minimart เล็กๆ สร้างจากเหล็กและแผ่น metal sheet ที่สร้างเป็นพื้นที่รองรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบการถ่ายรูป ต้มมาม่าเกาหลี นอกจากนี้ยังมีร้านล้างรถด้านหน้าด้วย เรียกว่าที่นี่ทำหลายอย่างมาก และใช้พื้นที่ภายในโครงการได้คุ้มและครบทุกอย่าง แต่เป็นสิ่งที่เกื้อกูลกับ business หลักได้ดี
กิจกรรมช่วงเช้าวันนี้ต้องขอขอบคุณ คุณสุรชัย เอกภพโยธิน และ คุณจุฑาทิพย์ เตชะจำเริญ บริษัท Office AT ที่มาให้ความรู้และยังพาดินชม อธิบาย และตอบคำถามอย่างเป็นกันเอง ได้แรงบันดาลใจและความรู้ไปทำงานกันต่อเพรียบ ขอบคุณคุณเสรี เจ้าของบริษัท บุญส่ง โอสถ ที่มาต้อนรับด้วยตัวเอง พร้อมเปิดอาคารให้เราได้เยี่ยมชม อบอุ่นมาก เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการทำให้เกิดโครงการดีๆ นี้ และยังได้มอบ set ยาสมุนไพรของบุญส่งโอสถ ให้สมาชิกสมาคมได้เอากลับไปลองใช้กันที่บ้านด้วย
กิจกรรมช่วงบ่ายวันนี้ต้องขอบคุณ คุณประชา และทีมงาน Assava metal ที่ให้การต้อนรับคณะเราอย่างอบอุ่นมาก ขอบคุณทีมงาน BLUESCOPE(Thailand) ที่ดูแลดีมากตั้งแต่เช้าจนบ่าย และทำให้เกิดกิจกรรมดีๆ ในวันนี้
ขอบคุณทีมISAสถาบันสถาปนิกสยาม และ จนท สมาคมทุกท่านและสุดท้ายขอบคุณสมาชิกสมาคมสถาปนิกทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมวันนี้ ตั้งแต่เช้าถึงเย็น วันนี้ไปกัน ไว้เจอกันใหม่กับกิจกรรมต่อๆไปของ ISAสถาบันสถาปนิกสยาม ที่จะมีตลอดปีนี้ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเพจของ ISAสถาบันสถาปนิกสยาม และเพจของสมาคมสถาปนิกสยามครับ
